วิธีซ่อมตู้เย็นฉบับคนรักบ้าน ทำเองได้ ไม่ง้อช่าง

เปิดตู้เย็นแล้วเจอปัญหาไม่เย็น หรือมีเสียงดัง “ครืด ๆ ซ่า ๆ” บางทีน้ำหยดพื้นเปียกก็สร้างความปวดหัวได้เหมือนกันครับ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพราะตู้เย็นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักที่เราใช้ทุกวัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก วิธีซ่อม ตู้เย็น ฉบับคนรักบ้าน ที่ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อช่าง แถมยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้อีกด้วยครับ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาลุยกันเลยว่ามีทริคดี ๆ อะไรบ้างที่จะทำให้ตู้เย็นของเรากลับมาเย็นฉ่ำเหมือนใหม่

ปัญหายอดฮิตของตู้เย็น

ก่อนจะไปเรียนรู้ วิธีซ่อม ตู้เย็น เบื้องต้น เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าปัญหายอดฮิตของตู้เย็นที่หลายบ้านมักเจอมีอะไรบ้าง เพราะการรู้สาเหตุจะช่วยให้เราสามารถแก้ไขได้ตรงจุด และอาจไม่ต้องพึ่งช่างในทันทีครับ

1. ตู้เย็นไม่เย็นหรือเย็นไม่ทั่ว

   มักเกิดจากคอยล์เย็นสกปรก หรือน้ำยาแอร์รั่ว ซึ่งทำให้การกระจายความเย็นไม่สมดุล

2. มีเสียงดัง “ครืด ๆ ซ่า ๆ”

   เสียงแปลก ๆ มักมาจากคอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ หรือพัดลมภายในตู้มีสิ่งกีดขวาง

3. น้ำหยดพื้นเปียก

   ปัญหานี้มักเกิดจากท่อน้ำทิ้งอุดตัน หรือการละลายน้ำแข็งที่ผิดปกติ

4. ตู้เย็นทำงานตลอดแต่ไม่เย็นเท่าเดิม

   สาเหตุอาจมาจากเทอร์โมสตัทเสียหรือคอมเพรสเซอร์มีปัญหา ซึ่งต้องตรวจเช็กอย่างละเอียด

การรู้จักปัญหายอดฮิตเหล่านี้ คือก้าวแรกของการเรียนรู้ วิธีซ่อม ตู้เย็น ครับ เพราะบางปัญหาเราก็สามารถแก้ไขได้เองที่บ้าน แถมช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

 วิธีซ่อมตู้เย็นง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ก่อนจะเรียกช่างซ่อม ลองมาเรียนรู้ วิธีซ่อม ตู้เย็น ง่าย ๆ ด้วยตัวเองกันก่อนครับ เพราะบางครั้งปัญหาเล็ก ๆ อาจแก้ได้ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก

1. ตรวจสอบขอบยางประตู

   ขอบยางที่ชำรุดหรือหลวมทำให้ความเย็นรั่วออกไป ลองเช็กดูว่ามีรอยฉีกหรือไม่ และทำความสะอาดขอบยางให้สะอาดอยู่เสมอ

2. ทำความสะอาดคอยล์หลังตู้เย็น

   ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะคอยล์ทำให้การทำงานของตู้เย็นหนักขึ้น ทำให้เย็นไม่ทั่ว ลองใช้แปรงหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง

3. เช็กท่อน้ำทิ้งว่ามีสิ่งอุดตันหรือไม่

   หากท่อน้ำทิ้งตัน น้ำอาจหยดและเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตรวจสอบและทำความสะอาดท่อน้ำเป็นประจำ

4. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม

   การตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไปจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก ลองปรับให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ตู้เย็นควรอยู่ที่ประมาณ 3–5°C

5. ละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ

   การมีน้ำแข็งเกาะมากเกินไปจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักและกินไฟ ลองละลายน้ำแข็งเป็นประจำเพื่อให้ตู้เย็นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

 ทริคดูแลตู้เย็นให้เย็นฉ่ำและยืดอายุการใช้งาน

การรู้ วิธีซ่อม ตู้เย็น ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องดูแลเลยนะครับ เพราะการดูแลตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้ดีและอยู่กับเราไปนานขึ้น วันนี้เรามีทริคง่าย ๆ ที่คนรักบ้านควรทำ

1. จัดวางอาหารไม่แน่นเกินไป

   การอัดแน่นอาหารจนเต็มตู้เย็นจะทำให้ลมเย็นหมุนเวียนไม่ทั่วถึง ควรจัดอาหารให้มีช่องว่างให้ลมไหลเวียนได้สะดวก

2. หมั่นทำความสะอาดภายในและรอบตู้เย็น

   คราบสกปรกและฝุ่นจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น ลองทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้ระบบทำความเย็นทำงานได้เต็มที่

3. หลีกเลี่ยงการเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ

   การเปิดตู้เย็นบ่อยจะทำให้ความเย็นภายในเสียไปและตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น พยายามจัดอาหารให้หยิบได้สะดวกเพื่อลดการเปิดตู้บ่อย ๆ

4. ตรวจเช็กสภาพประตูและระบบไฟฟ้าปีละครั้ง

   ตรวจสอบขอบยางประตูว่าชำรุดหรือไม่ และให้ช่างตรวจเช็กระบบไฟฟ้าตู้เย็นปีละครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ล่วงหน้า

 

เมื่อควรเรียกช่างซ่อมตู้เย็น

การรู้ วิธีซ่อม ตู้เย็น ด้วยตัวเองเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งปัญหาก็ใหญ่เกินกว่าที่เราจะแก้ได้เองครับ ดังนั้น การรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเรียกช่างซ่อมตู้เย็นจึงสำคัญ เพื่อให้ตู้เย็นกลับมาเย็นฉ่ำและปลอดภัยกับอาหารของเรา

1. ตู้เย็นยังไม่เย็นหลังลองแก้ไขเอง

   หากคุณได้ลองตรวจเช็กและทำความสะอาดตามวิธีซ่อมตู้เย็นเบื้องต้นแล้ว แต่ตู้เย็นยังไม่เย็นเหมือนเดิม แนะนำให้เรียกช่างมาตรวจอย่างละเอียด

2. มีเสียงผิดปกติหรือมีกลิ่นแปลก

   เสียงครืด ๆ ซ่า ๆ หรือกลิ่นเหม็นจากตู้เย็นอาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

3. น้ำหยดมากผิดปกติ

   น้ำหยดหรือมีน้ำขังในตู้เย็นอาจเกิดจากท่อน้ำทิ้งอุดตันหรือระบบทำความเย็นมีปัญหา การเรียกช่างจะช่วยวิเคราะห์และแก้ไขได้ตรงจุด

4. คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ

   หากคอมเพรสเซอร์มีเสียงดังหรือทำงานตลอดเวลาโดยไม่มีการหยุด อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาภายใน ควรให้ช่างตรวจสอบทันทีเพื่อป้องกันการเสียหายรุนแรง

สรุป

การดูแลและตรวจเช็กตู้เย็นง่าย ๆ เป็นประจำ ถือเป็นอีกหนึ่ง วิธีซ่อม ตู้เย็น ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นให้ยาวนานขึ้นได้ครับ การลองซ่อมเองในเบื้องต้นก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว ยังได้เรียนรู้การดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญในบ้านอีกด้วย แต่หากลองแล้วตู้เย็นยังมีปัญหา ไม่เย็น หรือมีเสียงผิดปกติ ก็อย่าลังเลที่จะเรียกช่างมืออาชีพมาช่วยแก้ปัญหาครับ เพราะการซ่อมที่ถูกวิธีจะช่วยให้ตู้เย็นกลับมาใช้งานได้ยาวนานขึ้นอย่างปลอดภัย สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้เลยครับว่า “ดูแลดี ๆ ตู้เย็นก็พร้อมอยู่กับเราไปอีกนานเลยครับ!” ถ้าคุณสนใจอยากซ่อมตู้เย็นที่มีปัญหา ติดต่อได้ที่ ตู้เย็นมือ2.com ได้เลยนะครับ