อยู่ดีๆ ตู้เย็นของคุณก็ไม่เย็น ของในช่องฟิตละลาย น้ำหยดเต็มพื้น หรือบางทีได้ยินเสียงแปลกๆ จากด้านหลังตู้ ทำเอางงไปหมดใช่ไหมครับ? ปัญหาเหล่านี้แม้ดูเหมือนเล็กน้อย แต่ถ้าไม่รีบเช็ก อาจทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก กินไฟ หรือเสียเร็วขึ้นได้ ไม่ต้องกังวลครับ เพราะหลายปัญหา สามารถซ่อมเองได้ง่ายๆ แค่รู้วิธีเช็กและจัดการเบื้องต้น วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก วิธีซ่อมตู้เย็นตามปัญหายอดฮิต ที่คนมักเจอบ่อยที่สุด พร้อมทริคง่ายๆ ให้ลองทำก่อนเรียกช่าง
วิธีซ่อมตู้เย็นตามปัญหายอดฮิต
หลายคนคงเคยเจอสถานการณ์นี้ครับ อยู่ดี ๆ ตู้เย็นไม่เย็น ของในช่องฟิตละลาย น้ำหยดเต็มพื้น หรือได้ยินเสียงแปลกๆ ทำให้สงสัยว่าต้องเรียกช่างเลยหรือเปล่า แต่บางปัญหาก็สามารถแก้ไขได้เองด้วยวิธีง่าย ๆ วันนี้เรามาแชร์ วิธีซ่อมตู้เย็น ตามปัญหายอดฮิต ที่ช่างเจอบ่อย ๆ ให้ลองเช็กกันก่อนเรียกมืออาชีพครับ
ตู้เย็นไม่เย็น
- เช็กปลั๊กไฟและเบรกเกอร์ว่าปกติดีหรือไม่
- ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- ทำความสะอาดคอยล์ด้านหลังตู้ เพื่อลดความร้อนสะสม
เสียงดังแปลก ๆ
- ตรวจขาตู้ให้เสมอกัน เพื่อลดแรงสั่นและเสียงดัง
- ทำความสะอาดพัดลมและคอยล์ด้านหลังตู้
- จัดวางของในตู้ให้มีอากาศหมุนเวียน ช่วยให้เครื่องทำงานเงียบขึ้น
ช่องฟิตรั่ว / น้ำแข็งละลาย
- ตรวจยางขอบประตูว่าหลวมหรือเสื่อมสภาพหรือไม่
- ลองวางกระดาษระหว่างประตูกับตู้ หากหลุดง่าย แสดงว่าต้องเปลี่ยนยาง
- ละลายน้ำแข็งและทำความสะอาดช่องระบายอากาศ
น้ำหยด / กลิ่นไม่พึงประสงค์
- ทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้สะอาด
- ตรวจยางขอบประตูและช่องฟิตรั่วว่าปิดแน่นหรือไม่
- ล้างถาดรองน้ำทิ้งเป็นประจำ เพื่อป้องกันกลิ่นอับ
สรุปครับ การรู้ วิธีซ่อมตู้เย็น เบื้องต้นจะช่วยให้เราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ถ้าลองทุกวิธีแล้วยังไม่หาย แนะนำให้เรียกช่างมืออาชีพเพื่อแก้ไขอย่างตรงจุด จะได้ใช้ตู้เย็นได้ยาว ๆ และเย็นเหมือนเดิมครับ
เครื่องทำความเย็นทำงานหนัก ทำไมต้องรีบเช็ก?
หลายคนอาจไม่ทันสังเกตครับว่า ตู้เย็นทำงานหนักกว่าปกติ แต่เชื่อเถอะว่าอาการนี้ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยให้เครื่องทำความเย็นทำงานหนักบ่อย ๆ อาจส่งผลเสียทั้งต่ออายุการใช้งานและค่าไฟ
ทำไมต้องรีบเช็ก?
- ประหยัดไฟ – เครื่องทำงานหนักขึ้น = กินไฟมากขึ้น ทำให้ค่าไฟบานปลาย
- ลดความเสี่ยงเครื่องเสียเร็ว – คอมเพรสเซอร์และชิ้นส่วนต่าง ๆ ถูกใช้งานเกินพอดี อาจเสียเร็วกว่าที่ควร
- ป้องกันอาหารเสีย – เครื่องเย็นไม่พอ ทำให้อาหารในตู้เสียเร็ว หรือช่องฟรีซละลาย
- ลดปัญหาใหญ่ที่ต้องเรียกช่าง – ตรวจและแก้เบื้องต้นเองได้ บางครั้งใช้ วิธีซ่อมตู้เย็น ง่าย ๆ ก็ช่วยได้
เมื่อไหร่ควรเรียกช่างมืออาชีพ
บางครั้ง วิธีซ่อมตู้เย็น ด้วยตัวเองช่วยได้ แต่อีกหลายปัญหาก็เกินความสามารถของคนทั่วไปครับ การรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเรียกช่างมืออาชีพ จะช่วยประหยัดเวลา ลดค่าเสียหาย และป้องกันความเสี่ยง
สัญญาณที่ควรเรียกช่าง มีดังนี้ครับ
- คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ – เครื่องไม่เย็นเลยหรือทำงานตลอดเวลา
- น้ำยาทำความเย็นรั่ว – ช่องฟรีซไม่เย็น หรือมีน้ำแข็งละลายบ่อย ๆ
- เสียงดังผิดปกติ – พัดลมหรือคอมเพรสเซอร์ส่งเสียงรุนแรง
- กลิ่นไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจร – อันตรายต่อผู้ใช้งาน
- ตรวจเช็กเบื้องต้นแล้วไม่หาย – ลอง วิธีซ่อมตู้เย็น ง่าย ๆ แล้วเครื่องยังไม่เย็นหรือมีปัญหาเดิม
สรุป
สรุปกันครับ ปัญหายอดฮิตที่มักเจอกับตู้เย็น ไม่ว่าจะตู้ไม่เย็น เสียงดัง หรือช่องฟิตรั่ว สิ่งสำคัญคือรู้วิธีเช็กและซ่อมเบื้องต้น เช่น ตรวจปลั๊กไฟ ปรับอุณหภูมิ ทำความสะอาดคอยล์ และเช็กยางขอบประตู อย่าลืมครับ การ เช็กตู้เย็นเป็นประจำ จะช่วยให้ปัญหาเล็กไม่กลายเป็นใหญ่ และถ้าลองทุกวิธีแล้วยังไม่หาย ก็อย่ารอช้า ติดต่อช่างมืออาชีพ เพื่อให้แก้ไขได้ตรงจุด เมื่อสังเกตอาการ และซ่อมแล้ว แต่ยังไม่หาย สามารถติดต่อช่างซ่อมได้ที่ ตู้เย็นมือ2.comเพื่อรับบริการอย่างมืออาชีพครับ
