ตู้เย็นไม่เย็น เสียงดัง หรือรั่ว? พาไปรู้จักร้านซ่อมตู้เย็นใกล้บ้าน ที่ช่างเก่งจริง!

ตู้เย็นอยู่ดีๆ ก็ไม่เย็น เสียงดังแปลกๆ แถมมีน้ำหยดออกมาจากช่องฟิต… ใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับ? หลายบ้านพอเจออาการแบบนี้ก็มักจะเริ่มพิมพ์ในมือถือทันทีว่า “ร้าน ซ่อม ตู้ เย็น ใกล้ ฉัน” เพราะไม่รู้จะเริ่มแก้ยังไงดี แต่จริงๆ แล้วก่อนจะเรียกช่าง เราสามารถเช็กเบื้องต้นเองได้หลายจุดเลยครับ บทความนี้ผมจะพาไปดูทั้งสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้ตู้เย็นมีปัญหา วิธีเช็กง่ายๆ ก่อนโทรหาช่าง รวมถึงเทคนิคเลือกร้านซ่อมตู้เย็นใกล้บ้านที่ไว้ใจได้จริง ไม่ต้องกลัวโดนฟันราคาเกินจริงแน่นอนครับ

อาการยอดฮิตที่บอกว่าตู้เย็นของคุณไม่ปกติแล้ว

สารบัญ

ตู้เย็นถือเป็นพระเอกของบ้านเลยก็ว่าได้ครับ เพราะช่วยเก็บของสด ของกินให้เย็นชื่นใจทุกวัน แต่ถ้าอยู่ดี ๆ เริ่มมีเสียงแปลก ๆ หรือน้ำแข็งละลายบ่อย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าตู้เย็นของคุณกำลัง “ป่วย” แล้วก็ได้ครับ มาดูกันว่ามีอาการไหนบ้างที่ไม่ควรมองข้าม!

  1. ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟยังติด

อาการนี้บ่งบอกได้หลายอย่างครับ เช่น คอมเพรสเซอร์เริ่มทำงานไม่เต็มที่ หรือระบบหมุนเวียนอากาศในตู้มีปัญหา ถึงไฟจะติดแต่ความเย็นไม่เดินแบบนี้ ถ้าปล่อยไว้นานอาจทำให้ของในตู้เสียได้ง่าย แนะนำให้รีบเช็กหรือเรียกช่างมาดูจะดีที่สุดครับ

  1. ได้ยินเสียงดังแปลก ๆ จากด้านหลัง

เสียง “ครืด ๆ” หรือ “ฮึ่ม ๆ” จากด้านหลังตู้เย็นอาจไม่ได้มาจากผีครับ แต่เป็นสัญญาณว่าพัดลม หรือคอมเพรสเซอร์เริ่มสึกหรอ บางครั้งก็อาจเกิดจากการตั้งตู้ไม่เสมอพื้น ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจนเสียงดัง

  1. ช่องฟิตน้ำแข็งละลาย

ถ้าน้ำแข็งละลายทั้งที่ยังเสียบปลั๊กอยู่ นั่นแปลว่าระบบทำความเย็นอาจมีปัญหา เช่น ยางขอบประตูเสื่อม หรือมีน้ำแข็งเกาะที่ท่อระบายอากาศมากเกินไปจนลมไม่ไหลเวียนอย่างที่ควร

  1. มีน้ำหยดตามขอบประตูหรือพื้นตู้

น้ำที่หยดออกมาจากขอบประตูหรือตรงพื้นตู้เย็น มักเป็นผลจาก “ช่องฟิตรั่ว” หรือยางประตูไม่แนบสนิท ซึ่งทำให้อากาศภายนอกเข้าไปผสมกับอากาศเย็นด้านใน เกิดเป็นหยดน้ำและทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นครับ

  1. มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้เพิ่งทำความสะอาด

ถ้าเช็ดตู้แล้วแต่กลิ่นยังอยู่ มีโอกาสว่าท่อน้ำทิ้งอุดตัน หรือมีการรั่วซึมของระบบน้ำในตู้เย็น ส่งผลให้เกิดกลิ่นสะสมตามซอกหลืบ ลองตรวจดูท่อน้ำทิ้งหรือเรียกช่างมาตรวจเช็กภายในจะปลอดภัยกว่าครับ

เช็กเบื้องต้นก่อนเรียกช่างซ่อมตู้เย็น

ก่อนจะรีบค้นหา “ร้าน ซ่อม ตู้ เย็น ใกล้ ฉัน” แล้วโทรหาช่างทันที ลองมาดูวิธีเช็กเบื้องต้นง่ายๆ ที่อาจช่วยคุณประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายกันก่อนครับ เพราะบางอาการที่ดูเหมือน “ตู้เย็นพังแน่ๆ” จริงๆ แล้วอาจแค่ปัญหาเล็กน้อยที่เราแก้ได้เองที่บ้าน

  1. ตรวจปลั๊กไฟและเบรกเกอร์

    เริ่มจากพื้นฐานที่สุดครับ บางครั้งตู้เย็นไม่เย็นหรือไฟไม่ติด อาจไม่ได้พัง แต่แค่ปลั๊กหลวม หรือเบรกเกอร์ในบ้านตัดเท่านั้นเอง ลองเสียบปลั๊กใหม่ หรือเปิดเบรกเกอร์ดูอีกครั้งก่อนเรียกช่างครับ

  2. ลองปรับอุณหภูมิใหม่

    บางทีเราเผลอหมุนปุ่มปรับอุณหภูมิเบาเกินไป ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นเท่าที่ควร ลองปรับให้เย็นขึ้นอีกนิด แล้วรอดูอาการสัก 1-2 ชั่วโมงครับ ถ้ายังไม่ดีขึ้น ค่อยคิดเรื่องเรียกช่าง

  3. ทำความสะอาดคอยล์ด้านหลัง

    ฝุ่นที่เกาะหนาคอยล์คอนเดนเซอร์ด้านหลังตู้เย็น เป็นอีกตัวการที่ทำให้ระบบระบายความร้อนไม่ดี ตู้เลยเย็นช้าและกินไฟมากขึ้น ใช้แปรงนุ่มๆ หรือเครื่องดูดฝุ่นเบาๆ ทำความสะอาดดูครับ

  4. เช็กยางขอบประตูว่ายังแนบสนิทไหม

    ถ้าประตูปิดไม่สนิท หรือขอบยางเสื่อมสภาพ ความเย็นก็จะรั่วออกไปได้ง่าย ลองใช้กระดาษสอดแล้วปิดประตูดู ถ้าดึงออกได้ง่าย แปลว่ายางเสื่อมแล้วครับ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่

  5. ถ่ายรูปหรือบันทึกเสียง เพื่ออธิบายอาการให้ช่างเข้าใจง่าย

    ก่อนโทรเรียกช่าง แนะนำให้ถ่ายรูป หรือบันทึกเสียงแปลกๆ ที่ได้ยินไว้ครับ เวลาช่างมาถึงจะได้เข้าใจอาการเร็วขึ้น วินิจฉัยได้ตรงจุด ไม่ต้องเสียเวลารื้อทั้งตู้

 

สาเหตุที่ทำให้ “ตู้เย็นไม่เย็นหรือเสียงดัง” บ่อยที่สุด

ถ้าตู้เย็นของคุณเริ่มมีอาการ “เย็นน้อยลง” หรือได้ยินเสียงดังผิดปกติจากด้านหลัง อย่าเพิ่งตกใจครับ เพราะปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากสาเหตุพื้นๆ ที่เจอกันบ่อยมาก และบางอย่างก็สามารถป้องกันได้ไม่ยากเลย ก่อนจะรีบค้นหา “ร้าน ซ่อม ตู้ เย็น ใกล้ ฉัน” ลองมาดูว่ามีอะไรที่น่ารู้บ้างครับ

  1. คอมเพรสเซอร์เริ่มเสื่อม

    คอมเพรสเซอร์คือตัวหัวใจของตู้เย็นครับ ทำหน้าที่อัดและหมุนน้ำยาทำความเย็นให้ไหลเวียนทั่วระบบ ถ้าเริ่มเสื่อม จะสังเกตได้ว่าตู้เย็นทำงานเสียงดังขึ้น หรือเย็นน้อยลงเรื่อยๆ บางครั้งช่างอาจช่วยซ่อมได้ แต่ถ้าเสียหนักก็ต้องเปลี่ยนใหม่ครับ

  2. น้ำยาทำความเย็นรั่ว

    นี่เป็นอีกสาเหตุยอดฮิตเลยครับ พอน้ำยาทำความเย็นรั่ว ตู้ก็จะไม่สามารถรักษาอุณหภูมิได้ดีเหมือนเดิม สังเกตง่ายๆ คือไฟติดปกติ แต่ของในตู้กลับไม่เย็น ถ้าเป็นแบบนี้ควรหยุดใช้งานชั่วคราว แล้วเรียกช่างมาช่วยเช็กระบบให้ครับ

  3. พัดลมระบายอากาศอุดตัน

    พัดลมในตู้เย็นมีหน้าที่หมุนเวียนลมเย็นให้ทั่วตู้ แต่ถ้ามีฝุ่น คราบน้ำแข็ง หรือสิ่งสกปรกไปเกาะจนใบพัดติด ก็จะทำให้เกิดเสียงดังแปลกๆ หรือบางครั้งตู้เย็นก็เย็นไม่ทั่วครับ การดูแลง่ายๆ คือ ละลายน้ำแข็งและทำความสะอาดช่องแอร์ด้านในเป็นระยะ

  4. ระบบละลายน้ำแข็ง (Defrost) มีปัญหา

    ระบบนี้ช่วยป้องกันไม่ให้มีน้ำแข็งจับหนาเกินไปในช่องฟิต แต่ถ้ามันพังหรือติดขัด น้ำแข็งจะเกาะจนพัดลมทำงานไม่สะดวก ทำให้เกิดเสียงดังและความเย็นลดลง ปัญหานี้ต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจและซ่อมครับ

 วิธีเลือกร้านซ่อมตู้เย็นใกล้บ้านให้เจอ “ช่างเก่งจริง”

เวลาตู้เย็นเริ่มงอแง ไม่เย็นบ้าง เสียงดังบ้าง หลายคนก็มักรีบค้นหา “ร้าน ซ่อม ตู้ เย็น ใกล้ ฉัน” เพื่อหาช่างมาช่วยแก้ปัญหาให้ไวที่สุด แต่เดี๋ยวก่อนครับ! ก่อนจะนัดช่างเข้ามาซ่อมที่บ้าน ลองเช็กกันก่อนสักนิดว่าร้านนั้นไว้ใจได้แค่ไหน เพราะการเลือกช่างดีๆ สักคน ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นไปได้อีกหลายปีเลยครับ

  1. ดูรีวิวจาก Google / Facebook ก่อนตัดสินใจ

    ร้านซ่อมที่ไว้ใจได้มักจะมีรีวิวจากลูกค้าจริงให้ดูครับ ลองดูคอมเมนต์ว่ามีคนบ่นเรื่องงานไม่เรียบร้อยหรือไม่ ถ้ามีคนชมว่าช่างพูดดี ตรงเวลา ซ่อมจบไม่ต้องตามแก้ แบบนี้ถือว่าน่ามั่นใจเลยครับ

  2. เลือกร้านที่มีการรับประกันงานซ่อม

    จุดนี้สำคัญมากครับ เพราะร้านที่กล้ารับประกันงาน แปลว่ามั่นใจในฝีมือของตัวเอง และใส่ใจลูกค้าจริงๆ ส่วนใหญ่จะรับประกันประมาณ 7–30 วัน แล้วแต่ประเภทของงานซ่อม ถือเป็นหลักประกันใจให้เราสบายใจได้ครับ

  3. ถามราคาประเมินก่อนนัดหมาย

    บางคนเผลอรีบนัดช่างมาเลย พอซ่อมเสร็จถึงรู้ว่าค่าซ่อมแพงเกินคาด ดังนั้นก่อนเรียกช่าง ควรถามราคาคร่าวๆ หรือส่งรูปอาการให้ร้านประเมินเบื้องต้นก่อน จะได้วางงบถูกและไม่โดนบวกเพิ่มทีหลังครับ

  4. สอบถามประสบการณ์ของช่าง (โดยเฉพาะรุ่นตู้เย็นที่ใช้)

    ตู้เย็นแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์มีระบบภายในต่างกันครับ ถ้าช่างมีประสบการณ์ตรงกับรุ่นที่คุณใช้อยู่ จะช่วยวินิจฉัยปัญหาได้แม่นยำกว่า และซ่อมได้เร็วกว่าเยอะเลยครับ

สรุป

สุดท้ายนี้ครับ… ถ้าตู้เย็นของเรามีอาการ ไม่เย็น เสียงดัง หรือน้ำหยด อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด เพราะมันคือ สัญญาณเตือนสำคัญ ที่บอกว่าตู้เย็นกำลังมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก ยางขอบประตูเสื่อม หรือช่องฟิตรั่ว — ถ้ารู้ตัวเร็วก็ซ่อมง่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยครับก่อนจะรีบค้นหา “ร้าน ซ่อม ตู้ เย็น ใกล้ ฉัน” ลองเช็กเบื้องต้นเองก่อน เช่น ดูว่ายางขอบประตูแนบสนิทไหม หรือมีเสียงฮึ่มผิดปกติหรือเปล่า ถ้าเช็กแล้วยังไม่ชัวร์ ค่อยโทรหาช่างก็ไม่สายครับ ถ้าใครกำลังหาช่างซ่อมตู้เย็นใกล้บ้าน ทักมาคุยกันได้ที่ ตู้เย็นมือ2.com ดูแลดีเหมือนซ่อมให้เพื่อนเลยครับ!

 

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *