อยู่ดีๆ ได้ยินเสียงน้ำหยด น้ำแข็งละลายในช่องฟรีซ ทำเอาสงสัยเลยครับ…ช่องฟรีซรั่วหรือเปล่า!? หลายบ้านมักคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้วอาการเหล่านี้ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าปล่อยไว้อาจทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก กินไฟมากขึ้น และอาจพังเร็วกว่าที่คิด บทความนี้จะพาคุณมาดู วิธีเช็กเบื้องต้น ว่าช่องฟรีซรั่วจริงหรือไม่ พร้อมสัญญาณที่ควรเรียกช่าง ซ่อมตู้เย็น ช่องฟรีซรั่ว แบบไม่ต้องตกใจครับ ผมจะเล่าให้เข้าใจง่าย เป็นกันเอง และทำตามได้จริงทุกขั้นตอนครับ
เสียงน้ำหยดแบบไหน ที่เรียกว่าปกติหรือผิดปกติ?
หลายบ้านมักตกใจเมื่อได้ยิน เสียงน้ำหยดหรือปุดๆ จากช่องฟรีซครับ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ทุกเสียงที่ต้องเรียกช่างซ่อมตู้เย็น ช่องฟรีซรั่ว เสมอไป ลองมาดูกันครับว่าเสียงแบบไหนปกติ และเสียงไหนควรระวัง
-
เสียงน้ำหยดปกติ
- น้ำจากการละลายน้ำแข็งปกติ (Defrost cycle) จะทำให้ได้ยินเสียงปุดๆ หรือติ๊กๆ เป็นช่วงสั้นๆ
- น้ำไหลลงท่อระบายน้ำ หรือเสียงน้ำกระทบถาดรองน้ำแข็ง เป็นเรื่องปกติครับ
- สัญญาณว่าไม่ต้องตกใจ: เสียงเกิดเป็นระยะสั้น และตู้ยังเย็นตามปกติ
-
เสียงน้ำหยดผิดปกติ
- น้ำหยดต่อเนื่อง หรือมีน้ำขังในช่องฟรีซหรือขอบประตู
- น้ำแข็งละลายเร็ว หรือของในช่องฟรีซไม่เย็นเหมือนเดิม
- มีเสียงน้ำไหลตลอดเวลา ร่วมกับคอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก
- สัญญาณว่าอาจต้องซ่อม: ช่องฟรีซรั่ว ทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก กินไฟ และอาจพังเร็ว
วิธีเช็กเบื้องต้นก่อนเรียกช่าง
ก่อนจะรีบเรียกช่างซ่อมตู้เย็น ช่องฟรีซรั่ว ลองทำ เช็กเบื้องต้นง่ายๆ ด้วยตัวเอง ก่อนครับ จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
-
สังเกตยางขอบประตูและความแนบสนิท
- เปิด-ปิดประตูดูว่ามียางขอบหลวมหรือแตกหรือไม่
- ประตูต้องปิดสนิททุกด้าน ถ้าไม่แนบ ช่องฟรีซอาจรั่ว
-
ทำความสะอาดช่องระบายอากาศ
- ล้างฝุ่น เศษอาหาร หรือเศษน้ำแข็งที่อุดตัน
- ช่องระบายอากาศสะอาด จะช่วยให้อากาศไหลเวียนดี ลดปัญหาน้ำหยด
-
ทดสอบด้วยกระดาษ
- วางกระดาษระหว่างประตูกับช่องฟรีซ แล้วปิดประตู
- หากดึงกระดาษออกง่าย แสดงว่าประตูปิดไม่แน่น ควรปรับหรือเปลี่ยนยาง
-
บันทึกอาการหรือถ่ายรูป
- จดรายละเอียดเสียงน้ำหยด น้ำแข็งละลาย หรือความผิดปกติอื่นๆ
- ถ่ายรูปหรือวิดีโอไว้ จะช่วยให้ช่างวิเคราะห์ปัญหาได้ไวและตรงจุดครับ
ทำไมช่องฟรีซรั่วถึงทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก?
หลายคนอาจคิดว่าแค่ช่องฟรีซรั่วนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่จริง ๆ แล้ว ช่องฟรีซรั่วส่งผลต่อการทำงานของตู้เย็นโดยตรงครับ เพราะอากาศเย็นในช่องฟรีซรั่วออกไป ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิ ลองมาดูเหตุผลกันเป็นข้อ ๆ เลยครับ
-
อากาศเย็นหลุดออกตลอดเวลา
- เมื่อช่องฟรีซรั่ว อากาศเย็นในช่องจะไหลออกมาเรื่อย ๆ
- ตู้เย็นต้องเร่งคอมเพรสเซอร์ทำงานต่อเนื่องเพื่อชดเชยอุณหภูมิ
-
กินไฟมากขึ้น
- การที่คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
- เป็นสาเหตุที่หลายบ้านเจอว่าค่าไฟพุ่งโดยไม่รู้ตัว
-
ความเย็นไม่สม่ำเสมอ
- ของในช่องฟรีซละลายเร็วขึ้น หรือของแช่เย็นในช่องอื่นไม่เย็นเท่าที่ควร
- เกิดความเสียหายกับอาหารและน้ำแข็ง
-
คอมเพรสเซอร์เสื่อมเร็ว
- การทำงานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็ว
- อาจต้อง ซ่อมตู้เย็น ช่องฟรีซรั่ว แบบใหญ่ในอนาคต
สรุป
สรุปแล้วครับ เสียงน้ำหยดหรือการละลายของน้ำแข็งในช่องฟรีซถือเป็น สัญญาณเตือน ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจบอกว่า ช่องฟรีซรั่ว ซึ่งถ้าปล่อยไว้ ตู้เย็นจะทำงานหนัก กินไฟมากขึ้น และอาจเสียเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นควรหมั่น เช็กและดูแลช่องฟรีซอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตู้เย็นทำงานเต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานครับ สำหรับใครที่กำลังมองหาช่าง ซ่อมตู้เย็น ช่องฟรีซรั่ว ใกล้บ้าน ติดต่อเราได้ที่ ตู้เย็นมือ2.com เลยครับ ดูแลดีเหมือนซ่อมให้เพื่อนเลย!